ไมโครพลาสติกกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเล็กเกินกว่าจะมองเห็น แต่กลับปะปนอยู่ในทุกที่ ทั้งแม่น้ำ ทะเล น้ำดื่ม อาหารทะเลที่เรากิน หรือแม้แต่ในอากาศที่หายใจ ความท้าทายใหญ่คือ…เรายังตรวจจับพวกมันได้ยากและใช้เวลานาน

นักวิจัยคิดค้น แบคทีเรียกรีนแลนเทิร์น
ไมโครพลาสติกคือเศษพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร แหล่งกำเนิดมีตั้งแต่ขยะพลาสติกที่แตกย่อยเป็นชิ้นเล็กลง ไมโครบีดส์ในยาสีฟันหรือเครื่องสำอาง เส้นใยจากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ที่หลุดออกเวลาซัก หรือแม้แต่เศษยางจากล้อรถยนต์ที่ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ
แม้เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าไมโครพลาสติกส่งผลต่อสุขภาพมนุษย์อย่างไร แต่สิ่งที่น่ากังวลคือมันกลายเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียก่อโรคจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่าเราอาจเผลอกินไมโครพลาสติกพร้อมแบคทีเรียเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
แม้ปัจจุบันในห้องแล็บมีวิธีตรวจจับไมโครพลาสติก เช่น Raman spectroscopy หรือ Infrared spectroscopy แต่ปัญหาคือกระบวนการซับซ้อน ใช้เวลานาน และไม่เหมาะกับการตรวจสอบในพื้นที่กว้างแบบต่อเนื่อง ทำให้ยากต่อการเฝ้าระวังในชีวิตจริง
แบคทีเรียกรีนแลนเทิร์น ทางออกของปัญหา
ทีมนักวิจัยจาก Hong Kong Polytechnic University นำโดยศาสตราจารย์ Song Lin Chua เลือกใช้เครื่องมือจากธรรมชาติ นั่นคือแบคทีเรียโดยดัดแปลงพันธุกรรมสายพันธุ์ Pseudomonas aeruginosa ที่ไม่ก่อโรค เติมยีนพิเศษสองตัวเข้าไป
- ยีนแรก ทำให้แบคทีเรียตอบสนองเมื่อสัมผัสพลาสติก
- ยีนที่สอง ผลิตโปรตีนเรืองแสงสีเขียว เมื่อได้รับสัญญาณจากยีนแรก
ผลลัพธ์คือ เมื่อแบคทีเรียเจอไมโครพลาสติก มันจะเปล่งแสงเขียวเหมือนสัญญาณกรีนแลนเทิร์น ภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง และยังใช้งานได้ต่อเนื่อง 3 วันหากเก็บในอุณหภูมิ 4°C
ทีมวิจัยนำแบคทีเรียนี้ไปทดสอบกับตัวอย่างน้ำทะเลจากท่อระบายน้ำของเมือง และพบว่าสามารถตรวจจับไมโครพลาสติกหลากหลายชนิด เช่น โพลีอะคริลาไมด์ โพลีคาโปรแลคโตน และเมทิลเซลลูโลส ได้อย่างแม่นยำ
Chua อธิบายว่า ไบโอเซนเซอร์นี้คือเครื่องมือที่เร็ว ราคาถูก และไวต่อการตรวจสอบไมโครพลาสติกในสิ่งแวดล้อมภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่ามันสามารถใช้เป็นเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้น เพื่อชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงและช่วยวางแผนตรวจสอบเชิงลึกต่อไปได้
ผลงานวิจัยนี้เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร ACS Sensors
อ้างอิง: newatlas